#แปลรักEP3 มิ้นท์มองว่าอีพีนี้เป็นอีพีที่บอกเล่า "การค้นหาตัวตนของเต๋" เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังสับสนกับ Sexual orientation ของตนเองเพราะความรู้สึกของเขาที่มีต่อโอ้เอ๋ว"อยากสนิทกับมึง ไม่อยากให้มึงสนิทกับใคร"เต็มไปด้วยความโหยหาและความต้องการที่เขามีต่ออีกฝ่ายอย่างห้ามไม่อยู่ (1)
ความรู้สึก"บางอย่าง"เริ่มต้นขึ้นจากการที่เขาได้สูดดมกลุ่มผมของโอ้เอ๋วที่มีกลิ่มมะพร้าวที่เขา"เคยเกลียด"แต่มันกลับหอมขึ้นมาเมื่อมาจากอีกฝ่าย ฉากที่เต๋เอาเนื้อมะพร้าวมาดมและในที่สุดก็เอาหน้าจุ่มลงไป มิ้นท์รู้สึกว่ามันอีโรติกดี แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ปั่นป่วนของเต๋ได้ลึกซึ้งมากๆ (2)
ยิ่งในซีนที่โอ้เอ๋วเลือกที่จะนอนห้องเดียวกับบาส เต๋ก็ยิ่งรู้สึกปั่นป่วนหนักกว่าเดิม เพราะเขารู้ว่าโอ้เอ๋วชอบบาสและภายในห้องนั้น "อาจจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น" ซึ่งมันไม่ใช่อารมณ์ที่เพื่อนจะรู้สึกกับเพื่อน และหลังจากนั้นโอ้เอ๋วก็สรุปให้ว่า "แต่กูว่ามึงหึงกูนะ" (3)
ซีรีส์เรื่องนี้เล่นกับสีจนผู้ชมรู้โดยทั่วกันว่าสีแดงเป็นตัวแทนของโอ้เอ๋ว และสีเขียว/ฟ้าเป็นสีของเต๋ การที่โอ้เอ๋วเอาดอกชบาสีแดงใส่มือของเต๋ มันคือการ "ถ่ายเทตัวตน" ซึ่งนั่นอาจจะ Represent ความ Queer ของโอ้เอ๋วไปสู่เต๋ให้ Queation กับตัวเองว่า "รสนิยมทางเพศของฉันเป็นแบบไหน?" (4)
นิ้วโป้งสามารถตีความได้ถึง "อวัยวะเพศชาย" การที่โอ้เอ๋วเอานิ้วโป้งของตนเองลูบไล้นิ้วโป้งของเต๋ มันคือ Symbolic ของความต้องการทางเพศที่โอ้เอ๋วมีต่อเต๋ หรืออาจจะเป็นการท้าทายเต๋ให้ก้าวข้ามเรื่อง Gender แล้วมาลองเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละคน (5)
ท่าทีที่ "เชิญชวน" ของโอ้เอ๋วที่ทิ้งไว้ภายในใจของเต๋ ทำให้เขาเริ่ม "คลั่ง" และปั่นป่วนมากยิ่งขึ้น สังเกตได้จากสีเสื้อของเต๋ในฉากนี้ที่เป็นสีแดงและอาการวูบวาบหวาบหวามจนถึงกับต้องเอาหน้าไปจุ่มบนกระดาษแบบฝึกหัดของโอ้เอ๋วและสูดดมกลิ่มมะพร้าวจากปากกาเจลราวกับคนติดสารเสพติด (6)
ตอนที่โอ้เอ๋วโผล่มาที่หาด เต๋เหมือนราชสีห์ที่เห็นกวางน้อยแสนยั่วยวนตัวหนึ่ง การไล่ล่าเพื่อสัมผัสร่างกายของคนที่ตนเองโหยหามันคือการเกี้ยวพาราสีที่คนหนึ่งลองเชิง อีกคนไล่ตาม มิ้นท์รู้สึกเหมือนโอ้เอ๋วเป็นลิลิธที่สร้างแรงปะทุจากภายในให้เต๋จนแทบแตกระเบิด ภาษาภาพมันดีจริงๆ ค่ะ (7)
ฉากในห้องนั่งเล่นที่โอ้เอ๋วกับเต๋นวดขากัน Sexual tension ของฉากนี้ ถ้ามีเทอร์โมมิเตอร์มาวัดความร้อนแรงคงทะลุปรอทไปแน่นอน เต๋ที่ปล่อยความรู้สึกของตนเองเต็มที่เมื่อโอ้เอ๋วเปิด เขาก็ไม่ปฏิเสธและทำกลับไปบ้าง การจับต้นขาคือการโหมโรงก่อนการมีเซ็กส์ ซึ่งนำไปสู่ฉากสุดท้าย (8)
มิ้นท์ชอบฉากสุดท้าย เพราะมันแสดงให้เห็นถึงคน "ผุดผ่อง" สองคนที่ไม่มีประสบการณ์ทางเพศกำลังใช้สัญชาตญาณดิบของตนเองในการลูบไล้และสัมผัสร่างกายของคนที่ตนเองหลงไหล มันสมเหตุสมผลที่ตัวละครทั้งสองคนไม่สามารถปฏิบัติภารกิจจนเสร็จสมบูรณ์เพราะเต๋ยังไม่ได้คำตอบในคำถาม (9)
การทิ้งคนดูและโอ้เอ๋วให้ "ค้างเติ่ง" เป็นหมัดฮุคที่ผู้กำกับต่อยมาที่หน้าของผู้ชมให้รู้สึกทุรนทุรายกับการมาถึงของวันพฤหัสบดี โดยส่วนตัวแม้จะโกรธเต๋แต่ก็เข้าใจว่าทำไมเต๋ถึงหยุด เพราะเต๋ก็คือชาย Straight ที่รักผู้หญิงมาก่อน เมื่อได้สัมผัส "หน้าอกแบนราบ" สติสัมปชัญญะก็กลับคืนมา (10)
เต๋ไม่ได้รังเกียจโอ้เอ๋ว เพราะตอนที่โอ้เอ๋วถามเต๋ว่า "แล้วถ้ามี Nan Zhu Jue สองคน ได้ปะ?" ตีความได้ว่าความรักระหว่างชายกับชายมันเป็นไปได้ไหม แล้วเต๋ก็ตอบว่า "อืม" ซึ่งบางทีความรักกับเซ็กส์มันก็แยกออกจากกัน เต๋รักโอ้เอ๋วแต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะสามารถมีเซ็กส์กับโอ้เอ๋วได้ (11)
โดยสรุป อีพี 3 ตั้งคำถามให้กับเต๋และคนดูว่าถ้าหากเรารักใครสักคนที่เป็นเพศเดียวกันกับเรา ในฐานะ Straight person เราจะจัดการกับอารมณ์ ความปรารถนา การยอมรับตัวตนของเราอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยว้าวุ่นที่ต้องลองผิดลองถูก ตั้งคำถามกับชีวิตของตนเองต่อไป...

#แปลรักEP3
You can follow @mint_manee.
Tip: mention @twtextapp on a Twitter thread with the keyword “unroll” to get a link to it.

Latest Threads Unrolled: