เราเห็นประเด็นเรื่อง "ศาลเจ้าเเม่ทับทิม" มาสักพักเเล้วซึ่งนอกจากการถกถึงการรักษาตัวศาลเจ้า ยังมีการตั้งข้อสงสัยถึงความ ignorance ของนิสิตสถาปัตย์ ฬ เราเลยอยากจะมาอธิบายถึงมุมมองของเราในประเด็นเหล่านี้ ในฐานะนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เเละสถาปนิกผังเมือง #saveศาลเจ้าแม่ทับทิม
1.ก่อนอื่นต้องขอเล่ามุมมองภาพใหญ่ในมุมมองของจุฬาเเละการพัฒนาพื้นที่ จากผังแม่บทจุฬาฯ ศตวรรษที่ 2 (CU2040) ได้มีการสร้างฉากทัศน์ในอนาคต มีการคาดการณ์ว่าจำนวนนิสิตเเละบุคลากรที่ใช้งานพื้นที่จะมีจำนวนน้อยลง เนื่องจากเทคโนโลยีที่ทำให้การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่เเค่รั้วสถานศึกษา
2.ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อรายได้ในระยะยาวของจุฬาอย่างแน่นอน ในมุมมองขององค์กรณ์จุฬาจึงต้องมีการปรับตัวเพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจของตนไว้ ประกอบกับได้มีการวิเคราะห์ว่า ในปัจจุบันภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยได้มีการใช้งานพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพเพียง 40%
3.กล่าวได้ว่าจุฬานั้นแทบจะไม่มีความจำเป็นในการเพิ่มในส่วนของพื้นที่เพื่อการศึกษา เช่น ห้องเรียน หรือตึกคณะ เเต่จะมุ่งเน้นที่การปรับปรุงการใช้งานพื้นที่เดิมให้เต็มประสิทธิภาพ เปลี่ยนแปลงการใช้งานใหม่ให้ตอบรับกับอนาคต และเปิดพื้นที่ให้เกิดการเเลกเปลี่ยนของศาสตร์ต่าง ๆ
4.ซึ่งผลที่ตามมาก็คือการมุ่งเน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เเละพัฒนาแปลงที่ดินรอบรั้วมหาวิทยาลัย แปลงที่ดินของจุฬามีมูลค่าต่อตารางวาเกือบสูงสุดในพื้นที่กรุงเทพ ประกอบกับอยู่ท่ามกลางพื้นที่พาณิชยกรรมความหนาแน่นสูง (พ.5) ตามกฎหมายผังเมืองรวม แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาที่ดินที่สูง
5.ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ได้มีการพัฒนาพื้นที่ของจุฬามาอย่างต่อเนื่อง เช่น สวน100ปีจุฬา อาคารlido เเละสามย่านมิตรทาวน์ เป็นต้น ชุมชนรอบศาลเจ้าแม่ทับทิมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องถูกย้ายเพื่อให้สามารถพัฒนาพื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพเเละเหมาะสมกับมูลค่าที่ดินให้ตอบรับกับอนาคต
6.ซึ่งตามหลักการทางผังเมืองการพัฒนาตามศักยภาพของที่ดินอันสอดคล้องกับกฎหมายถือเป็นที่ถูกต้องเเละ "ควรทำ" ในมุมมองของสถาปนิกผังเมืองเราจึงมองว่าจุฬาไม่ได้มีความผิดในการย้ายชุมชนออกเพื่อพัฒนาพื้นที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตน
7.ต่อมาจะพูดถึงประเด็นของการอนุรักษ์ ในแนวทางการพัฒนาเมือง การอนุรักษ์เเละฟื้นฟูเมือง (Urban Conservation) ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งการอนุรักษ์เเละฟื้นฟูมีเป้าหมายหลักเพื่อ ส่งต่อเเละถ่ายทอดเรื่องราวของสิ่งนั้นให้สืบต่อไป
8.ซึ่งการจะส่งทอดเรื่องราวเหล่านี้ไม่จำเป็นว่าสิ่งเหล่านั้นต้องคงสภาพเดิม เเต่สิ่งเหล่านั้นต้องถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับบริบทในอนาคตมากที่สุด ในการอนุรักษ์จะมีการให้ความสำคัยกับ 2 ปัจจัยได้เเก่ สิ่งที่จับต้องได้ (Tangible) เเละ สิ่งที่จับต้องไม่ได้ (Intangible)
9.สิ่งที่จับต้องไม่ได้ของศาลเจ้าแม่ทบทิมเช่น ตัวสถาปัตยกรรม และรูปเคารพ สิ่งที่จับต้องไม่ได้เช่น วัฒนธรรม เทศกาล ความเชื่อ รวมถึงความสัมพันธ์ที่เชื่อมกับชุมชนโดยรอบ ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูจะใช้ 2 ปัจจัยนี้เป็นเกณฑ์ในการวัดว่าควรจะจัดการอย่างไรกับมรดกวัฒนธรรมนี้
10.ยกตัวอย่าง Ise Jingu เป็นศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่นที่จะมีการรื้อทำลายและสร้างใหม่ในทุก 20ปี เนื่องจากวัสดุที่ใช้เป็นโครงสร้างไม้ที่มีการผุพังตามอายุการใช้งาน หัวใจหลักของ caseนี้คือการถ่ายทอดงานฝีมือความเป็น Artisanของงานช่างไม้ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้ให้ได้ถ่ายทอดต่อไป
11.ย้อนกลับมามองที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม เราอยากให้ลองคิดดูว่าหัวใจหลักของการอนุรักษ์ฟื้นฟูศาลเจ้านี้คืออะไร? เนื่องจากปัจจุบันไม่มีชุมชนโดยรอบซึ่งเป็นผู้ใช้งานหลักแล้ว อะไรควรเก็บไว้ อะไรควรเปลี่ยนแปลง หรือศาลเจ้านี้แท้จริงแล้วยังจำเป็นอีกหรือไม่?
12.โดยส่วนตัวเราค่อนข้างเห็นด้วยกับข้อเสนอของทางจุฬาที่ให้เกิดการย้ายไปในที่ตั้งใหม่ ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์ในการสืบทอดเรื่องราวของศาลนี้ต่อไปในพื้นที่ที่คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงได้ เราอยากรู้จริงว่าจะมีนิสิตฬ สักกี่คนที่เคยไปใช้งานเเละมีประสบการณ์ร่วมกับศาลเจ้าก่อนเกิดแฮชแท็กนี้ขึ้น
13.สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางจุฬาว่าในงานออกแบบขั้นสุดท้ายจะสามารถออกแบบสถาปัตยกรรมที่ยังเหมาะสมและรักษาเรื่องราวของศาลเจ้านี้ในพื้นที่ใหม่ได้หรือไม่ ถึงเวลานั้นเราทุกคนจะรู้ได้เองว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่
14.อีกเรื่องที่อยากเพิ่มเติมคือมีการพูดเยอะว่าเด็กถาปัตย์ ignorance ซึ่งในความเป็นจริงคนในคณะเราจะถกกันเรื่องสถาปัตยกรรมตลอดแต่ที่ศาลเจ้าแม่ทับทิมเงียบเพราะส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการย้าย แต่ยังไม่เห็นงานออกแบบขั้นสุดท้าย การออกมาพูดจึงน้อยขัดกับกระแสตอนนี้
สุดท้ายนี้จริง เราในฐานะสถาปนิกก็อยากคนเข้าใจและเคารพกับวิชาชีพของเราที่ได้เรียนมา แน่นอนเราอยากทำให้สังคมดีขึ้นเเต่การกระทำนั้นก็ต้องมีเหตุผลและกระบวนการที่เหมาะ ไม่ใช่สักแต่จะตำหนิโดยไม่ได้เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถือว่าตัวเองเป็นคนดีเเละสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมโดยไม่สนความจริง
ตกใจมากไม่คิดว่าทวิตจะมีคนสนใจเยอะขนาดนี้ ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่สามารถreplyได้ทุกอัน เราไปเห็นโพสต์นี้มาซึ่งอันนี้ตรงกับความต้องการที่เราจะสื่อสารมากที่สุดอยากให้ทุกคนลองอ่านกันครับ ขอขอบคุณเจ้าของโพสต์นี้ ถ้ารู้สึกไม่สบายใจ dm มาบอกให้ลบได้เลยนะครับ
You can follow @whoismissjones.
Tip: mention @twtextapp on a Twitter thread with the keyword “unroll” to get a link to it.

Latest Threads Unrolled: